วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

กฏ 14 ข้อ

1. ถ้าคุณรู้สึกว่ารถไฟฟ้าแน่น ให้ลองเดินเข้ามาข้างในตัวขบวนรถสักหน่อย คุณจะพบว่าช่วงกลางโล่งมากจนตั้งร้านกาแฟได้... คนขึ้นรถไฟฟ้าบ้านเราโรคจิต ชอบไปยืนอออยู่หน้าประตูหรือไม่ก็กอดเสาตรงกลางมันซะอย่างนั้น

2. เมื่อจะขึ้นรถเมล์ หลีกเลี่ยงป้ายที่อยู่เชิงสะพาน หรือมีรถเมล์ แท็กซี่ หรือรถตู้จอดรอกันมากๆ ป้ายที่ไม่ค่อยมีคนขึ้น ป้ายที่ถัดไปจะเป็นไฟแดง หรือป้ายแรก เมื่อพ้นไฟแดง - ป้ายพวกนี้รถเมล์ไม่ค่อยพยายามจอด ต่อให้คุณวิ่งไปโบกกลางถนนก็ตาม

3. ถ้าคุณถือของพะรุงพะรัง โอกาสที่คนข้างๆ คุณที่นั่งอยู่จะรับของไปถือให้ มีอัตราส่วนดังนี้
คุณเป็นผู้ชาย คนที่นั่งอยู่เป็นผู้หญิง โอกาส = 80%
คุณเป็นผู้หญิง คนที่นั่งอยู่เป็นผู้หญิง โอกาส = 70%
คุณเป็นผู้หญิง คนที่นั่งอยู่เป็นผู้ชาย โอกาส = 60%
คุณเป็นผู้ชาย คนที่นั่งอยู่เป็นผู้ชาย โอกาส = ต่ำกว่า 0%
อย่างน้อยในชีวิตนี้ บุญชิตฯ ยังไม่เคยเห็นผู้ชายรับของผู้ชายไปถือให้เลย

4. แท็กซี่ก็เหมือนความรัก... คือวันที่คุณมีความสุข อากาศดี รถไม่ค่อยติด หรือคุณไม่ต้องการ พวกเขา ก็จะปรากฏอยู่สลอนเต็มไปหมดจนรถเมล์ไม่เข้าป้าย แต่ถ้าวันไหนคุณรีบ ฝนตก รถค่อนข้างติด หรือเย็นแล้ว เมื่อคุณโบก พวกเขาก็จะไม่ยอมไป บ้างก็อ้างว่าต้อง ส่งกะ บ้างก็โบกมือไล่คุณเหมือนเห็นก้อนขี้ ร้ายกว่านั้นคือแล่นเลยไปเสียดื้อๆ

5. ร้านสเต็กในห้างบางร้านราคาไม่ถูกนัก สามารถ ไปกินสเต็กหรูๆ ได้สบาย ในขณะที่รสชาติไม่ดีอย่างที่คิด ควรเช็กราคาก่อนไปกิน

6. ผ้าเย็นในร้านอาหารส่วนใหญ่คิดตังค์ (และราคาไม่ค่อยสมเหตุสมผล) ถ้าคุณไม่รับมาก็ไม่เป็นไร เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างมือเอาดีกว่า

7. บางร้านเขาคิดค่าพริก ค่ามะนาวที่ขอเพิ่มด้วย ระวังให้ดี

8. การอดอาหารมา ไม่ทำให้กินบุฟเฟ่ต์ได้มากขึ้น ตรงกันข้าม มันจะทำให้คุณผวาเข้าหาอาการประเภทหนักท้องในช่วงต้นๆ แล้วหลังจากนั้นไม่ถึง 30 นาที มันจะทำให้อิ่มเร็วมาก ควรเปิดด้วยอาหารพวกเนื้อสัตว์ หรือซุปใส ส่วนพวกข้าว ซุปข้น ขนมปัง ของแป้งๆ ทั้งหลาย เก็บไว้กินช่วงกลางดีกว่า

9. เมื่อเจอร้านอาหารเล็กๆ ที่อร่อยมากๆ แต่ไม่ดัง หรือไม่ค่อยมีลูกค้า สิ่งที่ควรทำ หรือต้องทำอย่างยิ่งคือชวนเพื่อฝูงญาติมิตรมากินกันให้เยอะๆ เพราะหาไม่แล้ว... เมื่อคุณอยากกลับไปที่ร้านนั้นอีกครั้ง เขาอาจจะไม่อยู่แล้ว... บางทีรสชาติดีก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าคนไม่รู้จัก

10. เวลาราชการคือ 8.30 น. - 16.30 น. แต่เวลาที่ไม่ควรไปติดต่อราชการ เพราะไม่มีใครอยู่ทำให้ หรืออยู่แต่ก็ไม่เต็มใจทำ คือเวลาช่วง 8.30-9.00 น. ,11.00-12.00, 13.00-14.00 และหลัง 15.30 น.เป็นต้นไป

11. เมื่อเข้าไปติดต่อราชการ ให้ใช้การ "ไหว้" นำเข้าไปไหว้มันดะทุกโต๊ะ หมูหมากาไก่เด็กผู้ใหญ่ไหว้ให้หมด นึกว่าสวมวิญญาณ ส.ส. ไปก่อน การติดต่อนั้นจะราบรื่นขึ้น - ยังไม่ควรใช้เงิน เพราะถ้าเขาไม่รับ คุณจะมีปัญหาแน่ๆ

12. ฟังก์ชั่นในโทรศัพท์มือถือที่มีประโยชน์กว่าการถ่ายรูป แต่งเสียงเรียกเข้า ส่งข้อความคิกฃุ คือฟังก์ชั่นเตือนความจำ...หัดใช้ได้ดี แล้วชีวิตคุณจะง่ายขึ้น อย่างน้อยคนที่ติดต่อกับคุณก็รู้สึกดีในความตรงต่อเวลาของคุณ

13. ถ้าคุณถูกร้านค้า (อะไรก็ตาม) ดูถูกว่า คุณคงไม่มีปัญญาซื้อของหรอก หรือประเภทว่า ไม่ซื้ออย่ามาจับ หลายคนชอบที่จะซื้อประชด ซื้อเยอะซื้อแยะ เพื่อเป็นการตบหน้าคนขายให้หน้าชา ให้เขาเสียหน้าจนต้องโค้งแล้วโค้งอีกให้คุณ แต่รู้หรือไม่ ว่าคุณติดกับดักเขาไปแล้วเต็มๆ ผมเคยได้ยินว่าร้านขายของหรูบางร้าน จงใจเทรน พนักงานให้ดูถูกลูกค้า เพื่อหวังผลขายให้พวก เสียเงิน ตูไม่ว่า เสียหน้าข้าไม่ยอม... วิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับร้านพวกนี้ ... คือ อย่าไปซื้อของๆ มัน บอกเพื่อนฝูงญาติโกโหติกาของคุณด้วย

14. อย่าหัวเราะเยาะพนักงานมินิมาร์ต เวลาที่เขาถามคุณว่า รับโน่นรับนี่เพิ่มไหม อย่าคิดว่าเขาปัญญาอ่อน หรือเป็นนกแก้วนกขุนทอง ก็เขาและเธอเป็นแค่ลูกจ้าง ที่ต้องทำตามกฎตามคำสั่งของเขาเท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่ชวนคุณรับซาละเปาไปกินกับถุงยางอนามัย เขาก็ถูกนายจ้างตำหนิ X คนที่ปัญญาอ่อนน่ะ คือคนที่คิดนโยบายนี้แล้วบังคับให้พวกเขาและเธอต้องพูดเป็นนกแก้วนกขุนทองต่างหาก
วิธีที่ดีที่สุด คือตอบว่า "ไม่รับค่ะ/ไม่รับครับ"

ที่มา:http://www.dek-d.com/board/view.php?id=553199

ไม่มีความคิดเห็น: